วันศุกร์ที่ 17 เมษายน พ.ศ. 2558

น้ำใบย่านาง เครื่องดื่มคลายร้อนเพื่อสุขภาพ




               ย่านาง  เป็นสมุนไพรไทยชนิดหนึ่ง ที่คนไทยใช้เป็นส่วนประกอบในอาหาร รวมทั้งเป็นยารักษาโรคมาตั้งแต่สมัยโบราณ ซึ่งแหล่งกำเนิดของต้นย่านางนั้นจะขึ้นอยู่ตามแถบป่าของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ต้นย่านางมีลักษณะเป็นไม้เลื้อย ส่วนใบย่านางมีสีเขียวเข้มออกเงามัน และเป็นส่วนที่ได้รับความนิยมบริโภคมากที่สุด

                   ในปัจจุบันมีผู้คนนิยมนำใบย่านางมาทำเป็นเครื่องดื่มจำนวนมาก ทั้งเพื่อจำหน่ายและดื่มเพื่อสุขภาพ    เนื่องจากใบย่านางมีสรรพคุณที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกาย ประกอบด้วยสารอาหารและแร่ธาตุ 
อย่างเช่น สารกลุ่มโพลีแซคคาไรด์ (Polysaccharide)  แคลเซียม (Calcium)  ธาตุเหล็ก (Iron)  ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นสารที่ให้ประโยชน์ต่อร่างกายทั้งสิ้น  นอกจากนี้ ยังพบว่ามีสารเคมีที่มีสรรพคุณเป็นยา หรือเป็นวิตามินบำรุงร่างกายอีกหลายตัว เช่น สารกลุ่มอัลคาลอยด์ (Alkaloids)   แทนนิน (Tannin)   ลิกแนน (Lignan)   ฟลาโวนอยด์ (Flavonoid)  โพลีฟีนอล (Polyphenol)  รวมทั้งยังมีสารเบต้าแคโรทีน 
(Beta carotene)  ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระอีกด้วย    

ต้นย่านาง
ใบย่านาง


               เนื่องจากใบย่านางมีสรรพคุณหลากหลายอย่างที่ได้บอกไปแล้ว ผู้เขียนจึงอยากจะนำเสนอวิธีการทำน้ำใบย่านาง เพื่อเป็นแนวทางแก่คุณผู้อ่านที่กำลังมองหาเครื่องดื่มที่สามารถทำได้ง่ายๆ แต่มากไปด้วยประโยชน์ และเพื่อดับกระหายคลายร้อนในช่วงที่อากาศร้อนอบอ้าวเช่นนี้  รวมถึงยังเป็นการดื่มเพื่อเพิ่มคลอโรฟิลด์ ฟื้นฟูเซลล์ ปรับสมดุล และบำบัดหรือบรรเทาอาการที่เกิดจากภาวะไม่สมดุลที่ร่างกายร้อนเกินไปได้อีกด้วยล่ะค่ะ


ก่อนอื่นเลยเราจะต้องดูปริมาณความเข้มข้นให้เหมาะสมกับลักษณะผู้ดื่ม ดังนี้ค่ะ
เด็ก       >> ใช้ใบย่านาง 1 - 5 ใบ ต่อน้ำ 1 - 3 แก้ว ( 200 - 600 ซีซี )
ผู้ใหญ่ที่รูปร่าง ผอม บางเล็ก และร่างกายไม่แข็งแรง เจ็บป่วยง่าย     >> ใช้ใบย่านาง 5 - 7 ใบ ต่อน้ำ 1 - 3 แก้ว
ผู้ใหญ่ที่รูปร่าง ผอม บางเล็ก และร่างกายแข็งแรง          >> ใช้ใบย่านาง 7 - 10 ใบ ต่อน้ำ 1 - 3 แก้ว
ผู้ใหญ่ที่รูปร่างสมส่วน         >> ใช้ใบย่านาง 10 - 20 ใบ ต่อน้ำ 1 - 3 แก้ว

วัตถุดิบและอุปกรณ์        ใบย่านาง,  ครกหรือเครื่องปั่นไฟฟ้า,  น้ำเปล่า,  กระชอนหรือผ้าขาวบาง

ขั้นตอนการทำ
1. นำใบย่านางมาล้างทำความสะอาด
2. จากนั้น นำไปตำหรือปั่นในเครื่องปั่นให้ละเอียด แล้วเติมน้ำลงไป
3. ใช้กระชอนหรือผ้าขาวบางกรองเนื้อออก และเอาเฉพาะส่วนที่เป็นน้ำเพื่อดื่ม

เทคนิคพิเศษ
  หากใช้วิธีการปั่นด้วยเครื่อง ความร้อนจากเครื่องปั่นอาจจะทำลายความเย็นของใบย่านาง ทำให้คุณค่าของสารอาหารที่เราควรจะได้ลดลง การปั่นใบย่านางให้คงคุณค่าสารอาหาร คือ ไม่ควรกดปั่นครั้งเดียวจนใบย่านางแหลกละเอียด แต่ควรกดปั่นแล้วนับ 1 - 5 อย่างรวดเร็วแล้วกดหยุด จากนั้น กดปั่นแบบเดิมไปเรื่อยๆ จนใบย่านางละเอียด ซึ่งเทคนิคการปั่นนี้ทำให้โมเลกุลของสารอาหารยังคงรูปร่างเดิม



วิธีดื่ม               ควรดื่มครั้งละ 1/2 - 1 แก้ว  วันละ 2 - 3 เวลาก่อนอาหาร หรือตอนท้องว่าง และหากแช่ในตู้เย็น
ควรดื่มให้หมดภายใน  3 - 7 วัน  โดยก่อนดื่มคุณจะต้องสังเกตดูว่ามีกลิ่นเปรี้ยวหรือเปล่า ถ้าเริ่มมีกลิ่นก็แสดงว่ามันอาจจะเสียจึงไม่ควรดื่มค่ะ

                    สำหรับผู้อ่านท่านใดที่คิดอยากจะทำน้ำใบย่านางดื่มเอง แต่กลัวว่าจะขม มีกลิ่นฉุน และดื่มยาก ก็ไม่ต้องกังวลไปค่ะ เพราะคุณสามารถผสมน้ำที่มีกลิ่นหอมอย่างน้ำใบเตย หรือน้ำหวานเฮลซ์บลูบอยลงไปก่อนดื่มได้ เพียงเท่านี้คุณก็จะได้เครื่องดื่มที่ทั้งหอมหวาน รสชาติถูกปาก และมีประโยชน์ต่อสุขภาพได้ในคราวเดียวกันแล้วล่ะค่ะ



ข้อมูลอ้างอิงจาก http://www.summacheeva.org/index_article_triliacora.htm
                         http://www.morkeaw.net/k-yanang.html
ขอบคุณรูปภาพจาก http://www.noichiangmai.com/bai-ya-nang.html
                             http://www.oknation.net/blog/Chaoying/2011/07/04/entry-1
                             http://www.vcharkarn.com/varticle/39750
                             http://www.dailynews.co.th/Content/agriculture/41205

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น